ยกหลักฐาน 9 เคสควบรวมมายัน “ต่อพงศ์” กสทช.เสียงข้างมากแจงเหตุผล
เปิดบันทึกความเห็นบอร์ด กสทช.เสียงข้างมากคนแรก “ต่อพงศ์” แจงต้องยึดประกาศปี 61 ที่มีเจตนารมณ์ไม่ให้ กสทช.ใช้อำนาจดุลพินิจอนุญาตหรือไม่อนุญาตการรวมธุรกิจ ยกเคส 9 ราย รวมธุรกิจก่อนหน้า ก็ไม่ได้ใช้อำนาจอนุญาต ย้ำหลัง รวมธุรกิจถ้ามีผูกขาด ลดการแข่งขันสั่งห้ามรวมกิจการได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากมติเสียงข้างมาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 รับทราบการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และให้กำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อคุ้มครอง ผู้บริโภคและพัฒนากิจการโทรคมนาคมนั้น มติบอร์ด ดังกล่าวยังกำหนดให้คณะกรรมการ กสทช. ทั้ง 5 ราย ได้แก่ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ นายศุภัช ศุภชลาศัย น.ส.พิรงรอง รามสูต และนายต่อพงศ์ เสลานนท์ ต้องจัดส่งบันทึกความเห็นของแต่ละบุคคลด้วย
ทั้งนี้ การประชุมเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 ซึ่งใช้ เวลาในการประชุมกว่า 11 ชั่วโมง มีมติเสียงข้างมาก รับทราบการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค ในสัดส่วน 3 : 2 โดยเสียงข้างมากซึ่งเห็นว่าบอร์ดมีอำนาจแค่ รับทราบการควบรวม แต่สามารถกำหนดมาตรการเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ได้แก่ นพ.สรณ และนายต่อพงศ์ เสลานนท์ ขณะที่ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ งดออกเสียง ส่วน กสทช.เสียงข้างน้อย ซึ่งมีความเห็นไม่อนุญาตการรวมธุรกิจ ได้แก่ นายศุภัช และ น.ส.พิรงรอง ซึ่ง กสทช.เสียงข้างน้อย 2 ราย ได้ส่งบันทึกความเห็นเรียบร้อยแล้ว